ฉันเป็นมุสลิมปลอม เเต่พระเจ้าย่อมรู้ทุกสิ่ง พระองค์จึงเข้าใจฉัน
เจษฎา บัวบาล
บทความนี้ศึกษาชีวิตชาวมุสลิมในเมืองยอกยาการ์ต้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือนรามาฎอน ซึ่งเป็นเดือนวิถีชีวิตของมุสลิมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อต้องถือศีลอด และช่วงเวลานี้เองที่ทำให้ที่เห็นได้ว่ามีการต่อต้าน/ไม่ปฏิบัติตามคำสอนศาสนาด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง จากการเก็บข้อมูลด้วยวิธีชาติพันธุ์วรรณาอยู่ร่วมกับมุสลิมที่นี่เป็นเวลา 3 ปี และวิเคราะห์ผ่านแนวคิด Everyday Religion ของ Nancy Ammerman บทความนี้เสนอว่า หากศึกษาวิถีชีวิตของคนในฐานะที่เขาเป็นปัจเจก จะเห็นการตีความ/ต่อต้านองค์กรศาสนาในชีวิตประจำวัน ต่างกับการมองผู้คนในฐานะที่เขาสังกัดองค์กรศาสนา โดยการมองแบบหลังจะลดบทบาทเขาเป็นเพียงสาวกผู้เชื่อฟังคำสอนของผู้นำศาสนาหรือองค์กรเป็นหลัก และยังพบอีกว่า แม้มุสลิมเหล่านี้จะนิยามตัวเองว่าเป็น “มุสลิมปลอม” แต่นัยของคำนั้นกลับสื่อว่าตนเป็น “มุสลิมแท้” หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้มีค่าน้อยไปกว่าคนที่อ้างว่าตนเป็นศาสนิกที่ดีตรงตามแบบฉบับของคัมภีร์ โดยพวกเขาเชื่อว่า เงื่อนไขในชีวิตคนไม่เหมือนกัน ศาสนาจึงต้องปรับเพื่อให้เข้ากับแต่ละคน และคนที่สามารถปรับคำสอนอย่างฉลาดต่างหากคือคนที่พระเจ้าโปรดปราน ดังนั้น เพื่อเสนอมุมมองทางเลือกในการศึกษาศาสนา เราอาจจะต้องเน้นว่า “ศาสนาของใคร” มากกว่า “ศาสนาอะไร”
คำสำคัญ การตีความศาสนา, มุสลิมปลอม, ศาสนาในชีวิตประจำวัน
อ่านบทความฉบับเต็มจาก https://shorturl.at/OQYZ6